คำถามที่พบ


คำถามที่พบบ่อย


คำถามที่พบบ่อยในธุรกิจ  Topup2Rich ?

1. Topup2Rich คืออะไร ?
ตอบ :> Topup2Rich  เป็นธุรกิจที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเติมเงินมือถือ และ ยังสามารถเปลี่ยนรายจ่ายประจำ ให้กลับมาเป็นรายได้อีกด้วย โดยเราสามารถทำรายการจากโทรศัพท์มือถือ หรือ ผ่านทางเว็บไซต์ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเราได้เลย

3. การรับเงินจากบริษัท Topup2Rich สามารถใช้บัญชีธนาคารอะไรได้บ้าง ?
ตอบ :>  ใช้ได้ทุกบัญชีธนาคารครับ เรามีบัญชีธนาคารใหนอยู่แล้วก็ใช้บัญชีนั้นได้เลย ( ยกเว้นธนาคาร ธกสกับออมสิน ) แต่ที่ทางบริษัทแนะนำให้เปิดบัญชีทหารไทยรับเงินก็เพราะว่า การเปิดบัญชีทหารไทยอย่างแรกเลยบัตร เอทีเอมราคา 500 บาทใช้ได้เป็นระยะเวลาถึง 3 ปีครับ และ ถ้าเปิดบัญชีธนาคารทหารไทยที่ กรุงเทพ เวลาไปกดเบิกที่ใหนไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด ก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินครับ หรือ เวลาเราจะโอนรายได้จากกระเป๋า e - wallet เข้าบัญชีธนาคารของเราบ่อยๆ กดเบิกทุกวัน จะได้ไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมในการโอนหลายครั้งครับ

4. ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นทำธุรกิจ Topup2Rich คืออะไร ?
ตอบ :> ได้รับความสะดวกสบายในการเติมเงินโทรศํพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเมื่อใหร่ ที่ใหน โดยไม่ต้องเดินมาที่เคาท์เตอร์เติมเงิน และยังได้รับโบนัสต่างๆอีกมากมายจาก Topup2Rich อีกด้วย

5. ถ้าต้องการสมัครเป็นสมาชิก Topup2Rich ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ :> อันดับแรก กรอกข้อมูลเข้ามาทางเว็บไซต์นี้ได้เลย คลิกที่นี้  หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ชำระค่าสมาชิกโดยการโอนเงินไปที่บัญชีธนาคารของบริษัท ดูวิธีการโอนเงิน คลิกที่นี้ โอนเงินเสร็จแล้วโทรแจ้งการโอน ได้ที่ผู้แนะนำธุรกิจนี้ให้แก่ท่าน (ที่ปรึกษา)


6. ระบบของ Topup2Rich ทำงานอย่างไร ?
ตอบ : หลังจากที่เราสมัครเป็นสมาชิก ท๊อปอัพ ทู ริช เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะมีกระเป๋า e-welled เป็นของตัวเราเองซึ่งกระเป่านี้จะเชื่อมต่อกับเบอร์โทรศัพท์ของเรา เราต้องทำรายการผ่านระบบ ท๊อปอัพ ทู ริช เดือนละ 100 บาทจะเติมเงินให้ตัวเองก็ได้หรือว่าจะเติมเงินให้คนอื่นก็ได้ แต่ให้เติมผ่านแอคเค้าของเรา ก็ถือว่าทำคุณสมบัติผ่านในส่วนนี้ และ ต้องหาสมาชิกอย่างน้อย 2 คน ต่อ 1 รหัส สองคนนี้ต้องวางด้านซ้าย 1 คน ขวา 1 คน เพื่อทำคุณสมบัติที่จะมีสิทธิ์ได้รับรายได้จากโบนัสข้อต่างๆ ตลอดไป

7. เว็บไซต์บริษัท สามารถเข้าผ่านบราวเซอร์อะไรได้บ้าง ?
ตอบ : เว็บไซต์บริษัท  www.topup2rich.com  สามารถ เข้าได้ผ่านทางบราวเซอร์  Google Chrome , Mozilla Firefox  หรือ Safari ก็ได้ครับ ยกเว้น Internet Explorer ที่เข้าไม่ได้นะครับ

8. Topup2Rich จะจ่ายเงินโบนัสทุกวันที่เท่าใหร่ ?
ตอบ : การจ่ายผลตอบแทนของ Topup2Rich นั้นจะมี 2 แบบครับ แบบแรก คือ การจ่ายผลตอบแทนรายวัน แบบที่ 2 คือจ่ายแบบรายเดือน  โบนัสข้อที่ 1 คือ การขยายแฟรนไชน์ จ่ายรายวัน จ่ายทันทีหลังจากที่เรากดลงทะเบียนให้สมาชิกเสร็จจ่ายแบบ เรียวไทม์เลย  โบนัสข้อที่ 2 โบนัสลิขสิทธิ์ จ่ายรายวัน จะคำนวนจ่ายโดยตัดยอดทุกเที่ยงคืนของทุกวัน ตัดยอดเสร็จ หลังจากเที่ยงคืน เงินจะเข้ากระเป่า e-walletของเราทันที โบนัสข้อที่ 3 คือ โบนัสทำรายการ จะจ่ายเป็นรายเดือน ตัดยอดทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน แล้วจ่ายให้เราในวันที่ 15 ของทุกเดือนคับ เช่นเดือนนี้ตัดยอดวันที่ 28 จำนวนเงิน 1000 บาท เงิน 1000 ก็จะเข้ากระเป๋า e-wallet ของเราในวันที่ 15 ของทุกเดือน

9. จำกัดอายุไหม ในการซื้อแฟรนไชน์ และคนต่างชาติ (ต่างด้าว) ทำอย่างไร ?
ตอบ - ไม่จำกัดอายุ ใช้บัญชีธนาคารผู้ปกครองได้ คนต่างชาติ ใช้หมายเลขพาสปร์อต สมัครได้

10. หากเริ่มต้นซื้อแฟรนไชส์แบบ 1 หรือ 3 รหัสแล้ววันข้างหน้าจะเพิ่มแฟรนไชส์ใหม่ ทำอย่างไร ?
ตอบ- สามารถซื้อแฟรนไชส์เพิ่มได้ โดยใช้ชื่อเดิม แต่เบอร์โทรศัพท์และสมุดบัญชีธนาคาร ต้องเป็นชุดใหม่

11. เราจะพิจารณา จากอะไร ว่าควรซื้อแฟรนไชส์ 1,3,7 หรือ 15 รหัสดี ?
ตอบ - เพราะรายได้ทางที่ 2 คือค่าโบนัสลิขสิทธิ์ ใช้หลักบาลานซ์ มีจุดรับรายได้สูงสุดต่อ 1 รหัส วันละ 4200 บาท เพื่อไม่ให้บริษัทจ่ายเกิน แต่หากว่าเราต้องการรายได้ที่มากกว่า 4200 บาทต่อวัน ก็ต้องเพิ่มจุดแฟรนไชน์ขึ้น เช่นซื้อแบบ 3 รหัส หากสายงานเติบโต ก็ได้รับ 4200x3=12,600 บาทต่อวัน แต่จะมีหลักเกณฑ์ดังนี้
1.ให้ดูศักยภาพในการลงทุนครั้งแรกของตนเอง
2.ให้ ดูจากการใช้โทรศัพท์มือถือปกติของคุณว่าใช้เดือนละเท่าไหร่ หาก 1 เดือน   เราใช้โทรศัพท์เกิน 300 บาท ก็ควรลง 3 รหัส เพราะหากเติมเงินสะสมครบ 300 ภายใน 1 เดือนก็ถือว่าเรารักษายอดแล้ว (ใช้เบอร์เดียว)
3.ให้ดูความตั้งใจหรือความขยันขยายแฟรนไชส์ของตนเอง

12. การซื้อแฟรนไชส์ หลายๆรหัสนั้นจะต้องสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างไร ?
ตอบ - วิธีการสร้างองค์กรให้แข็งแรง เมื่อลงหลายรหัส ให้สร้างรหัสที่ 1 ซ้ายสุด ขวาสุดให้แข็งแรงก่อน  หลังจากนั้นให้ไปสร้างรหัสที่ 2 ฝั่งขวาให้แข็งแรงมีรายได้ต่อวันมากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป  แล้วถึงไปทำรหัสที่ 3 ฝั่งซ้าย (ข้อควรระวัง ในการบริหารทีม ไม่ควรทำพร้อมกัน 3 รหัส เพราะจะทำให้องค์กรเกิดการช่วยเหลือกันน้อยลง

13. หากซื้อแฟรนไชส์แล้วจะไม่แนะนำคนเลย  แต่จะเติมเงินให้คนอื่น เพื่อเก็บค่าบริการทำได้ไหม ?
ตอบ - ได้ เพราะในระบบ topup2rich นั้นสามารถโอนเงินของตัวเอง เข้าบริษัทเพื่อ ให้บริษัทโอนเงินเข้า e-wallet เรา แล้วเติมเงินบนมือถือให้คนอื่นได้  แต่ไม่แนะนำให้ทำแค่นี้ (เติม 100 คนได้ 500 บาท) หากเราแนะนำคนเข้าสู่ระบบ แค่ 2 คน เรามีรายได้ถึงวันละ 4000 บาท

14. ซิมแบบลงทะเบียนทำได้ไหม อย่างไร ?
ตอบ - ซิมแบบลงทะเบียนสามารถสมัครได้ เพียงแต่ เราต้องเติมเงินผ่านระบบ topup2rich ให้ได้ 100 บาท แล้วโอนให้คนอื่นได้ ส่วนยอดลงทะเบียนปกติ ก็ให้จ่ายที่โอปอเรเตอร์เครือข่ายนั้นๆ


15. การเติมเงินแบบ topup2rich นั้นต้องพิมพ์แบบส่งข้อความ ทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นไหม ?
ตอบ
- ปกติหากเราเติมออนไลน์ทั่วไป เราต้องเสียค่าบริการ 3 บาท
- ซื้อตามร้านสะดวกซื้อ ไม่เสียค่าบริการ(เราไม่มีผลตอบแทน)
- เติมแบบ topup2rich  จะเสียค่าบริการเพื่อส่งข้อความครั้งละ 50สต.-3บ. ขึ้นอยู่กับ
โปรโมชั่นของโอเปอเรเตอร์นั้นๆ แต่ topup2rich มีผลประโยชน์ตอบแทนมากมาย

16. อนาคตเมื่อระบบของ topup2rich โด่งดัง และมีคนจำนวนมากมาใช้บริการ  จะกระทบร้านสะดวกซื้อ ตู้ออนไลน์ จนทำให้โอเปอเรเตอร์หรือผู้ได้สัมปทานเครือข่ายมือถือต่างๆ จะหยุดการขายการเติมเงินให้บริษัท topup2rich ไหม ?
ตอบ - ร้านสะดวกซื้อ ห้างร้าน ตู้ออนไลน์ ธนาคาร ตลอดจนถึงบุคคลธรรมดา ที่ซื้อซิมพิเศษมาขายออนไลน์ทั่วไป  ต่างได้สิทธิ์ส่วนลดต่างๆ เหมือนกัน  topup2rich ก็เป็นผู้ให้บริการรายหนึ่ง ที่ไม่ได้มีเงื่อนไข หรือสัญญา พิเศษอะไรกับ โอปอเรเตอร์ค่ายต่างๆ  เพียงแต่topup2rich เป็นช่องทางหนึ่ง ที่ใช้ระบบเทคโนโลยีสุดล้ำกับการตลาดสุดเลิศ ผสมผสานกันให้ลงตัว ต้องการที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค และตอบแทนทางการตลาดให้สมาชิกส่งต่อระบบที่ดี ซึ่งกันและกัน ตราบใดที่ทุกเครือข่ายต้องเติมเงินโทรศัพท์ ตู้ออนไลน์ยังอยู่ ร้านสะดวกซื้อยังจำหน่ายอยู่ ระบบของ topup2rich จะคงอยู่ตลอดไป  เปรียบเทียบ เหมือนการขายบัตรเติมเงิน ในช่วงแรกของการใช้มือถือในเมืองไทย มีแบบขูด พัฒนามาเป็นสลิป  พัฒนามาเป็นออนไลน์ตามร้านสะดวกซื้อ พัฒนามาเป็นตู้ออนไลน์ข้างถนน  พัฒนามาเป็นให้ผู้ประกอบการไปซื้อซิมจากโอปอเรเตอร์ มาใส่ในมือถือตนเอง แล้วขายให้ผู้อื่น และพัฒนามาเป็น Topup2Rich แบบให้ความสะดวกถึงมือผู้ใช้โดยตรง พร้อมผลตอบแทนมหาศาล


17. ทำไมทรูมูฟ CAT TOT เคยให้บางบริษัท ทำการตลาดแบบเครือข่าย แต่ไม่ยั่งยืน topup2rich จะยั่งยืนไหม ?
ตอบ - การนำซิม มาทำการตลาดแบบเครือข่าย มีตัวแปรและองค์ประกอบมากมาย เป็นการแข่งขันทางการตลาด สูงมาก การทำการตลาดแบบเครือข่าย จึงส่งผลต่อภาพพจน์ ของโอปอเรเตอร์ต่างๆ จึงได้หยุดทำการตลาด แต่ topup2rich ไม่ได้จำหน่ายซิมโทรศัพท์ของค่ายโทรศัพท์ของค่ายใดค่ายหนึ่ง แต่ให้บริการเรื่องการเติมเงินโทรศัพท์ด้วยระบบอัจฉริยะ(อ่านเหตุผลข้อ 9 ประกอบ)

18. ปัจจุบันระบบของ topup2rich มีบริษัทอื่นได้ทำหรือยัง และอนาคตจะมีคู่แข่งไหม ?
ตอบ - ปัจจุบันมี แต่ไม่สะดวกสบาย เพราะต้องเติมเงินโทรศัพท์ ผ่านคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ตเท่านั้น  แต่ topup2rich เติมผ่านมือถือ และการจ่ายผลตอบแทน topup2rich มีแผนการตลาด ที่ง่ายและให้มากกว่าการรักษายอดน้อยกว่า
- ในอนาคต ย่อมมีบริษัทเกิดขึ้นใหม่มาแข่งขัน แต่ผู้นำย่อมพัฒนาระบบให้เป็นผู้นำก้าวหนึ่งเสมอ และสมาชิกของ topup2rich ย่อมมีตัวอย่างคนสำเร็จมากมาย จะส่งผลให้เป็นผู้นำตลอดไป


19. ทำไมซื้อแฟรนไชส์แล้ว ไม่ได้รับคู่มือเหมือนบริษัท ขายตรงอื่นๆ เลยไม่สะดวกในการขยายงาน ?
ตอบ - เนื่องจากคนยังติดภาพเดิมๆของบริษัทเก่าๆ ที่คุณสมัครแล้วได้คู่มือแต่เราเมื่อซื้อเฟรนไชส์ 1.000 สิ่งที่คุณได้มันยิ่งใหญ่กว่านั้น เพราะคุณได้ระบบอัจฉริยะของ topup2rich อยู่บนมือถือคุณทันที เปรียบเสมือน ร้านสะดวกซื้อขายโลโก้เป็นล้านนั่นเอง

20. การซื้อแฟรนไชส์เพิ่มควรซื้อตอนไหน
ตอบ - หากผู้นำหรือคนที่ขยันตั้งใจ 100% เพื่อขยายให้ได้มากที่สุด จะได้เปรียบและได้ความคุ้มค่ามาก หากเราไปแนะนำใคร แล้วเจอผู้นำที่แก่งแล้ว พร้อมจะลุย เปรียบเสมือน เราเจอทำเลทองในสายนั้น เราก็เพิ่มสาขาไว้ก่อนสัก 1 แฟรนไชส์ และในโอกาสหน้า เราก็มาขยายงานต่ออีกในอนาคต (อย่าเพิ่งขยายอีกข้าง ต้องลงไปช่วยผู้นำให้มีรายได้ก่อน)อย่าไปซื้อแฟรนไชส์โดยไม่มีแบบแผน จะทำให้สิ้นเปลือง และผู้นำที่อยู่ข้างล่าง  ก็อย่าคิดว่าเขาเอาเปรียบเรา เพราะการขยายแฟรนไชส์ ระบบมันไม่เหมือนบริษัทขายตรงทั่วไป

21. ลงทุนของบริษัท ท๊อปอัพ ทู ริช จำกัด มากขนาดไหน ?
ตอบ Topup2Rich สร้างระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้หลักการเดียวกันกับ ธนาคาร และสายการบิน ประมวลผล วินาทีต่อวินาที  ต้นทุนของบริษัทอยู่ที่ระบบ และ บริษัท Topup2rich ก็นำเงินจำนวนหนึ่งไปสำรองให้โอปอเรเตอร์ ค่ายต่างๆ อีกหลายค่าย หากมีคน  1,000,000 คนเติมเงินคนละ 100 บาท ก็ต้องมีเงินสำรองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 100 ล้าน ฉะนั้น ความมั่นคงของบริษัท ไม่ได้อยู่ที่ทุนจดทะเบียน แต่อยู่ที่ระบบที่ดีต่างหาก

22. การทำตลาดแบบไบนารี 1 แตก 2 ไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะตันหรือสมาชิกใหม่หมด มีหรือไม่ ?
ตอบ - โอกาสที่จะตันไม่มีเลย เพราะการใช้โทรศัพท์ มือถือมีคนมากมายมหาศาลที่ใช้กัน 1 คนมี 3 เครื่องก็มี คนที่อายุน้อย พร้อมจะเติบโตเพิ่มขึ้น คนที่เกิดใหม่ในแต่ละปีก็มีมายมาย และ topup2rich ยังให้โอกาสขยายไปถึงต่างประเทศ โดยการเติมเงินผ่านอินเตอร์เน็ต และบริษัท topup2rich ได้วางแผนไว้แล้วว่า จะเพิ่มส่วนอื่นๆ อีกมากมาย มาไว้ในระบบ topup2rich ผู้นำจะมีรายได้มหาศาลในอนาคต

23. แชร์ลูกโซ่ กับไบนารี ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ - ระบบการจ่ายผลตอบแทนแบบเครือข่าย มีมายาวนาน กว่า 100 ปี แชร์ลูกโซ่ พึ่งเกิดจากมิจฉาชีพ ที่เห็นการทำตลาดแบบนี้ดี นำมาหลอกลวงประชาชน โดยไม่ได้มีสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย แต่อาศัยเอาเงินคนสมัครก่อน มาจ่ายให้คนใหม่ พอฐานคนสมัครกว้างขึ้น ก็หอบเงินหนี ซึ่งจะต่างกับบริษัทที่เขาขายสินค้าจริงๆ

24. แผนการตลาดของ topup2rich ส่งเสริมให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในองค์กรอย่างไร ?
ตอบ - แผนไบนารี 1 แตก 2 ย่อมส่งผลต่อการช่วยเหลือกันโดยตรง และในการขึ้นสู่ตำแหน่งของบริษัท เพราะบริษัทบังคับว่า ต้องผลักดันคนที่เราแนะนำโดยตรงคือลูกเรา ให้ประสบความสำเร็จ จำนวน 10 คน

25. คนเครือข่าย ที่ทำธุรกิจอื่นๆ ควรทำ topup2rich หรือไม่ ?
ตอบ - ควรทำอย่างยิ่ง เพราะทุกธุรกิจต้องใช้โทรศัทพ์  แต่อยากให้พิจารณาถึงรายได้ที่เกิดขึ้น ถ้าทำที่ topup2rich  ได้เงินวันต่อวันแและความง่ายของธุรกิจนี้  เปรียบเสมือน การขึ้นภูเขาที่ลาดเอียง 10 องค์ศา สำเร็จได้ทุกคน  หากทธุรกิจใด  ต้องปีนป่ายขึ้นภูขา 90 องค์ศา สำเร็จได้เหมือนกัน  แต่น้อยคนจะสำเร็จ จึงอยากให้ทำในสิ่งง่ายๆก่อน  คนเครือข่าย 99 เปอร์เซ็นต์  ทำเพื่อความร่ำรวย  topup2richมีให้ท่านง่ายๆแน่นอน  หากมีรายได้ ทำธุรกิจอี่นเสริมย่อมได้เสมอ



T2R  เป็นธุรกิจการเติมเงินโทรศัพท์มือถือหรือเปล่า ?

                
             ก่อนที่เราจะเริ่มทำธุรกิจขอให้ศึกษา แนวคิดของธุรกิจให้เข้าใจว่าหัวใจของธุรกิจคืออะไร T2Rคือเครือข่ายของคนที่ใช้มือถือระบบเติมเงิน ที่ทุกคนต้องเติมเงินมือถืออยู่แล้วทุกเดือน เพียงแค่เข้าร่วมธุรกิจโดยการเป็นสมาชิก ระบบ ITS จะสร้าง ewallet ขึ้นมาผูกติดกับเบอร์มือถือที่ใช้ลงทะเบียน ซึ่งจุดประสงค์ให้เอาไว้เติมเงินให้ตัวเองเป็นหลัก ก็ทำให้มีรายได้หลักแสนหลักล้านแล้ว การเติมเงินให้ผู้อื่นนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะแสดงให้ผู้มุ่งหวังได้เห็น ถึงประโยชน์และความสะดวกสบายในการใช้งานและทำให้เค้าเหล่านั้นเข้าร่วม ธุรกิจกับเรา ซึ่งการที่เราจะไปไล่ล่าเติมเงินให้ลูกค้าเพื่อกินเปอร์เซนต์ส่วนลดจากการเติมเงิน นั้น  ต่อให้ได้ส่วนลดเต็มๆ  สูงสุดก็แค่ 3.5% ซึ่งมันไม่มีทางทำให้เรามีรายได้หลักแสนได้เลย เรามาทำธุรกิจเครือข่ายเราก็ต้องรวยจากการสร้างเครือข่าย และเมื่อสร้างเครือข่ายไปแล้ว เราก็จะมีรายได้ที่เกิดจากการเติมเงินของคนในเครือข่าย ส่วนเงินใน ewallet นั้น เพียงแค่คุณแนะนำ คน ก็จะเกิดโบนัสขึ้นทันที200 บาท และถ้าคุณแนะนำ 2 คน ก็จะได้โบนัส 400 บาท      บวกกับ โบนัสลิขสิทธิ์อีก 140 บาท เท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินในกระเป๋าแล้วครับ และหากต้องการเติมเงินในกระเป๋าก็สามารถโอนเงินเข้าบริษัทและแจ้งข้อมูลผ่าน ทางเว็บหรือมือถือ เงินก็จะถูกโอนเข้า ewallet ครับ


สงสัยว่ารายได้ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะหลักพันหรือหลักหมื่นเป็นรายได้ที่เกิดจากการแนะนำสมาชิก  ไม่ได้เกิดจากการเติมเงินมือถือ?

            
                           ต้องทำความเข้าใจนะครับ ว่ารายได้นั้นมาจากส่วนไหนบ้าง การออกแบบแผนการตลาดนั้นมันต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ครับ ต้องคำนึงถึงหลักความเป็นจริง จะเห็นว่ารายได้ตอนเริ่มแรกนั้นจะมาจากการสร้างเครือข่ายเป็นหลักครับ เพราะถ้าไม่มีเครือข่าย แล้วจะเกิดยอดทางธุรกิจได้อย่างไร แต่การสร้างเครือข่ายนั้นคือขั้นตอนที่ต้องมีรายจ่าย ต้องลงทุน ดังนั้นการสร้างกระแสเงินสดเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะทำให้นักธุรกิจสามารถประคองตัวและอยู่รอดได้หรือไม่   สังเกตได้จากบางธุรกิจ ที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้คิดว่าการลงทุนน้อยๆ จะทำให้คนเข้าร่วม แต่ข้อเท็จจริงก็คือ รายได้ที่ได้รับนั้นมันไม่ทำให้นักธุรกิจสามารถหล่อเลี้ยงตัวเองได้ หรือบางธุรกิจลงทุนสูงเกินไปก็จะทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าร่วมได้ ดังนั้นการกำหนดยุทธศาสตร์การลงทุนถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆครับ ที่ต้องไม่น้อยจนเกินไปที่ทำให้สิ่งที่ทำเป็นแค่รายได้เสริม หรือมากเกินไปจนคนไม่สามารถเข้าร่วมได้ ตัวเลข 1000 บาทจึงเป็นตัวเลขที่เหมาะสมที่สุด ที่จะทำให้ทุกคนสามารถลงทุนได้และรายได้จากธุรกิจก็ทำให้เกิดกระแสเงินสดที่ สมดุลครับ และแน่นอน เมื่อเครือข่ายถูกสร้างขึ้นในระดับที่เหมาะสม คราวนี้รายได้ที่เกิดจากการเติมเงินของสมาชิกในเครือข่ายก็จะมาทดแทน วึ่งจะกลายเป็น Passive Income หลักแสนหลักล้านต่อเดือนในที่สุด


ในอนาคตมีจ่ายสาธารณูปโภคหรือไม่?

                
                    วันนี้เมื่อคุณไปชวนผู้มุ่งหวังให้เข้าร่วมธุรกิจ และบอกกับเค้าว่าธุรกิจนี้สามารถจ่ายค่าสาธารณูปโภคได้ สิ่งที่คุณจะถูกถามกลับมาก็คือ มีใบเสร็จ หรือไม่ และแน่นอนครับ ใน เสร็จที่เป็นใบๆมันไม่มี มันมีแต่ e-slip ที่เป็นการตอบกลับแบบ SMS ซึ่งมันไม่เพียงพอที่จะทำให้คนเหล่านั้นมั่นใจว่าเงินที่เค้าจ่ายไปนั้นจะ ถึงหน่วยงานหรือไม่ และมีโอกาสสูงมากที่จะถูกปฏิเสธ และแน่นอนสำหรับคนใหม่ๆ ที่โดนปฏิเสธแค่ 2-3 ครั้ง เค้าก็ถอยแล้วล่ะครับ มันเลยกลายเป็นจุดอ่อนมากกว่าเป็นจุดขาย และข้อสำคัญการสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องสื่อสารข้อมูลให้น้อย และกระชับที่สุด เพียงแค่มีบริการอะไรสักอย่างที่คนทั้งประเทศจำเป็นต้องใช้ ซึ่งของเราก็คือการเติมเงินมือถือ แค่นี้ก็สามารถสร้างเครือข่ายของคนทั้งประเทศได้แล้วครับ ส่วนในอนาคตจะมีอะไรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ

ต้องจ่ายภาษีด้วยหรือ?

               
                 ธุรกิจเราดำเนินธุรกิจอยู่ในกรอบของกฏหมายอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ค่าสมัคร 1000 บาท ก็รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%ซึ่งบริษัทต้องนำส่งสรรพากร และรายได้ของสมาชิกที่เป็นคอมมิชชั่น ก็จะถูกหัก ภาษี ณ ที่จ่าย 3 % ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายครับ วันนี้เราทุกคนฝากอนาคตไว้กับบริษัท   ดังนั้นทางบริษัท จะต้องดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก จะไม่มีการหลีกเลี่ยงภาษี เพราะหากทำเช่นนั้น มันจะทำให้เกิดความเสียหายได้หากถูกตรวจสอบและจะถูกทำลายความน่าเชื่อถือของ บริษัททันทีครับ
                ยกตัวอย่าง  เวลาเราเลือกโปรมือถือเดือนละ 499 บาทเวลาจ่าย เราโดนบวก vat ไปอีก 7% นะครับ เราจ่ายเกิน 499 บาท สำหรับ T2R 1000 บาท นั้น include vat 7% ไปเรียบร้อยแล้ว หรือเหมือนซื้อตั๋วหนัง ใบละ 150 บาท อันนั้นเค้าก็ include vat 7% แล้วเช่นกัน ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันหรอกครับ
                ที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่ละเลยเรื่องพวกนี้ครับ ยกตัวอย่าง โสมเกาหลี ที่เคยโด่งดัง โดนสรรพากรตรวจสอบภาษี จนถึงต้องปิดบริษัทหนีเลยครับ พวกเราคงไม่อยากทำธุรกิจกับบริษัทที่ทำผิดกฏหมายใช่มั๊ยครับ เพราะเพียงแค่บริษัทมีความคิดว่าจะไม่ซื่อตรงแค่นิดเดียวนั่นหมายถึง คุณก็มีสิทธิ์ที่จะถูกบริษัทนั้นๆโกงได้นะครับ
                เล่า นิทานให้ฟังเรื่องนึงครับ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีธุรกิจตัวหนึงซึ่งโด่งดังมาก คนแห่เข้าร่วมธุรกิจกันทุกสารทิศ ทุกวันจะมีรถบัสขนคนมาจากต่างจังหวัด มาที่บริษัทนี้ ถึงขนาดแม่ทีมต้องถือ ธงเดินนำหน้า แต่ละคนที่มาขนเงินกันมาเป็นเข่งๆ อยู่มาวันนึง จู่ๆสรรพากรก็เข้ามาตรวจสอบครับ ปรากฏว่าบริษัทไม่ได้นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพราะตอนจ่ายโบนัส นั้นไม่ได้หักไว้ จ่ายให้สมาชิกไหมดเลยและให้สมาชิกไปจ่ายเอง ปรากฏว่าไม่มีสมาชิกคนไหนไปจ่ายครับ ซึ่งทำให้ตัวเลขภาษีค้างจ่ายนับเป็นหลายร้อยล้าน ทำไงละครับ เงินค่าภาษีนั้นสมาชิกแต่ละคนก็ใช้กันจนเกลี้ยงไปแล้ว และบริษัทเองก็ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ สุดท้ายครับ ต้องปิดกิจการไปทำให้เครือข่ายที่สู้อุตสาห์เสียแรงเสียเวลาก่อสร้างมาต้อง พังทลายลงในเวลาอันรวดเร็วครับ นี่เป็นนิทานก่อนนอนที่สอนให้รู้ว่า ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ถ่องแท้  โดยเฉพาะกฏหมายที่เกี่ยวกับ “ภาษี” ที่คนส่วนใหญ่จะละเลยคิดว่าไม่สำคัญ แต่มันคือประตูสู่แดนนรกเลยละครับ

ค่าสมาชิก 1000 แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

               
                      200 บาท จ่ายค่าแนะนำ แฟรนไชน์โบนัส
                350 บาท จ่าย Royalty Bonus
                15 บาท จ่าย Bonus Pool
                70 บาท จ่ายค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
                2 บาท จ่ายกองทุนเพื่อครอบครัว
                150 บาท เป็นกองทุนเพื่อการท่องเที่ยว
                ที่เหลือบริษัทประมาณ 200 บาทเป็นค่าบริหารจัดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบฐานคอมพิวเตอร์ พนักงานบริษัท ฯลฯ และสุดท้ายก็เป็นผลประกอบการของบริษัทครับ
                    ถือได้ว่าเป็นการแจงค่าใช้จ่ายของบริษัทที่เคลียร์มากที่สุด  เพราะปกติแล้วบริษัทเขาจะไม่เคลียร์ให้เห็นต้นทุนหรอกครับ ว่าเขาทำได้กันเท่าไหร่ทำให้เราไม่ทราบว่าธุรกิจเครือข่ายประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคต้นทุนเท่าไหร่ กันแน่ แต่ที่ทราบปกติแล้ว สินค้า ตัว เขาจะบวกกำไรอย่างต่ำๆ เท่า สมมุติ เราซื้อน้ำผลไม้ ขวด ราคา 500 บ. ต้นทุนจริงๆ อาจจะอยู่ที่ 100 บ. อย่างนี้เป็นต้นครับ


ทำไมคนที่ทำเครือข่ายอุปโภคฯ จึงไม่ประสบผลสำเร็จกันมาก?

              
                   สิ่งเหล่านี้ก็เกิดกับตัวผมเช่นเดียวกัน  ผมไปคุยกับคนที่ทำเครือข่ายอุปโภค บริโภคมาหลายยี่ห้อ แล้วสปอนเซอร์ไม่ค่อยได้  เหตุผลมันก็เพราะว่าที่ผ่านมาธุรกิจ Counter Service หรือธุรกิจ Online เพิ่งเกิดมาไม่กี่ปี    ยังไม่มีIdol ของคนที่ประสบความสำเร็จมีรายได้หลักแสน หรือหลักล้านให้เขาเห็น  ที่ผ่านมาแผนธุรกิจหลายๆ บริษัทที่ทำธุรกิจCounter Service เป็นเพียงแค่รายได้เสริมเท่านั้น   เพราะตลอดที่ผมทำธุรกิจทั้ง Am…, และ Aim… เมื่อมีคนสำเร็จ  เขาจะมีพิธีประกาศเกียรติคุณ  มีคนมาร่วมแสดงความยินดีเป็นพันๆ คน จัดอย่างยิ่งใหญ่  และได้ลงสื่อ รับการได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ    ซึ่งความคิดของผมตอนนั้นมองธุรกิจประเภท Counter Service ว่า เป็นเพียงแค่รายได้เสริมธรรมดาๆ  ช่วงนั้นจึงไม่สนใจธุรกิจประเภทนี้เลย  จึงไม่แปลกใจครับว่าทำไม  เราชวนคนทำเครือข่ายอุปโภค บริโภค มาทำธุรกิจนี้แล้วค่อนข้างยาก
                แล้วบางกรณีเขาจะมีข้อโต้แย้งว่า “โอโห้...ต้องใช้คนตั้งเยอะ  ทำไมต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ด้วย?”  นั่นคือเหตุผลว่าเราต้องสร้างเครือข่ายไงหล่ะครับ  เพราะถ้าธุรกิจใช้คนน้อยในการสร้างเครือข่าย  นั่นหมายความว่า คุณกำลังสร้างเครือข่าย “นักขาย”  ซึ่งใช้คนเพียงจำนวนไม่มาก  แต่สามารถสร้างยอดมูลค่าทางธุรกิจได้เยอะ  ตรงกันข้าม  ถ้าวันนี้สินค้าแค่สินค้าตัวเดียว  แต่คนต้องใช้  ยังไงก็เป็นเครือข่ายได้ง่ายๆ  ไม่ต้องไปตื้อ ง้อ ขอ ขาย อะไรให้มันวุ่นวาย  ดังนั้น ธุรกิจเครือข่าย T2R  ออกแบบมารองรับคนมหาศาลที่มีต่อไปในอนาคตไม่ใช่หลักล้านคน  แต่เป็นหลักสิบล้านคนในอนาคต  ซึ่ง Server ของเราอยู่ที่ตึก กสท.  มั่นใจได้ในความปลอดภัย  แล้วคนที่เขียนโปรแกรมเป็นคนที่ทำระบบให้กับสายการบินนกแอร์  และกระทรวงสาธารณสุข  จึงมั่นใจในความปลอดภัยของฐานข้อมูลอันมหาศาลที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
                ดังนั้น  เราต้องทำให้เห็น...สำเร็จให้ดู  “เชื่อง่ายไม่ใช่ว่าโง่...เชื่อยากไม่ได้แปลว่าฉลาด”  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราได้รับ  ประสบการณ์ที่เราได้ทำ  และเวลาจะเผยให้เห็นความจริง...

พนักงานห้างสรรพสินค้าทำได้มั้ย?

               
                ถ้าเป็นธุรกิจเครือข่ายสินค้าทั่วไป  พนักงานห้างสรรพสินค้าเป็นอาชีพหนึ่งที่ไม่สามารถทำธุรกิจเครือข่ายได้ ถ้าจะทำได้ต้องลาออกเท่านั้น  เพราะเวลาเข้างาน คือ 10.00-22.00 น.  ทำให้คนทำอาชีพนี้จึงไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับคนทั่วไปที่ทำงานเลิกตอนเย็นได้  แต่เนื่องจากธุรกิจ T2R  เราสามารถทำงานทั้งแบบ On line และ off line  
                การทำงานแบบ On line คือ หาคนจากอินเตอร์เน็ตเหมือนที่หลายๆ คนทำกันอยู่  และแบบ off line คือ การSponsor เจอกันตัวต่อตัวแล้วนั่งอธิบายแผนให้ฟัง  ซึ่งธุรกิจนี้จะต้องทำแบบผสมผสานกันครับ  มันจึงเป็นโอกาสสำหรับทุกคนจริงๆ ครับ

คนที่เราเคยแนะนำแล้ว แต่ยังไม่สมัคร  เราจะมีวิธีการติดตามอย่างไร?

               
                    วันนี้หลังจากที่เราแนะนำธุรกิจให้เพื่อนของเราแล้ว  เขาจะสมัครหรือไม่สมัคร  เราเองก็ยังไม่ทราบ  ดังนั้นการติดตามเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  อย่าคิดว่าเขาจะไม่สมัครนะครับ  อย่าเพิ่งไปคิดแทน การติดตามถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจเครือข่าย  วัดความเป็นมืออาชีพก็ตรงนี้แหละ  เพราะเท่าที่ผมทราบ บางคนเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนชวนมา เพราะคนชวนมาก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย 
                ดังนั้น เมื่อเราแนะนำธุรกิจนี้ให้กับใครแล้ว เราก็ติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะบางทีเขาอาจจะติดต่อเราไม่ได้ แล้วเขาก็ไปสมัครกับคนอื่น ดังนั้น อาจจะต้องมีการแลกเบอร์กัน  แล้วเราอาจจะบอกกับเขาว่า  "ถ้าพี่ดูข้อมูลของผมแล้วสนใจให้ติดต่อกลับมาที่ผมนะครับ"   และเราต้องจดจำคนที่เราชวนให้ได้ และมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะส่วนตัวของพี่เอง จะคุยกับผู้มุ่งหวังของเราก่อน แล้วเราก็แนะนำลิงค์ของเราไป จากนั้นก็ติดตามโดยการถามว่า 
                "พี่ครับ เมื่อวานนี้ที่ผมส่งลิงค์ให้พี่มีโอกาสได้ดูแล้วยังครับ?" เขาถ้าเขายังไม่ดูก็ต้องตอบว่า "อ๋อ...ไม่เป็นไรครับ ยังไงคืนนี้ไม่ดึกเกินไปพี่ลองดูนะครับ ผมว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ดีมากๆ พี่จะรู้เลยถ้าพี่เข้ามาทำธุรกิจกับเราในช่วงนี้จะเป็นโอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วนะครับ"  วันนี้ถ้าเราอยากให้ใครทำอะไรก็ตาม...เขาก็ต้องรู้ก่อนว่าเขาทำแล้วจะได้อะไร?             สรุปนะครับ การติดตามที่ดี ควรติดตามหลังจากส่งลิงค์ให้เขาดูแล้วประมาณไม่เกิน 48 ชม.  
อีกอย่างนะครับ  วันนี้เราจะชวนใครเข้ามาทำธุรกิจ  อยากให้ทุกคนมีแนวคิด 4 ข้อนี้
                1. เราเป็นผู้ให้  เราไม่ได้จะไปเอาอะไรจากคนชวน  :  วันนี้เราทำเครือข่าย  เราต้องมีจิตใจของการให้  เหมือนกับว่าวันนี้เรารู้ว่าถ้าซื้อเลขหวยงวดนี้ต้องถูกแน่ๆ  เราก็จะอยากบอกต่อให้คนที่เป็นญาติ  เพื่อนที่เรารัก   ในทางตรงกันข้ามถ้าวันนี้เรามีใจที่อยากจะได้เขามา  ถ้าได้คนนี้มาเราโตแน่ๆ  ความคิดที่อยากจะได้นี่แหละ  บางทีเวลาเราคุยโทรศัพท์  คนฟังเขาทราบความรู้สึกนะครับ 
                2.อย่าคิดแทนใคร  คนที่เราคิดไม่ถึงอาจจะอยากทำก็ได้  : ประเด็นนี้สำคัญมาก  ตั้งแต่ผมทำเครือข่ายมา  เชื่อมั้ยครับ  คนเราว่าจะไม่ทำ  ปรากฏว่าเมื่อฟังข้อมูลโดยละเอียด และเขาเข้าใจแล้ว เขาก็ทำ” มีเยอะเลย 
3.  1 คน  ไม่ใช่ 1 คน  แต่ 1 คนเป็น 1 เครือข่าย 
4.  Today say “No” ,  Tomorrow say “Yes”  :  แม้ว่าวันนี้เขาอาจจะปฏิเสธเรา  แต่ถ้าเรา Update ข่าวสารอย่างต่อเนื่องอยู่เรื่อย  เขาเห็นว่าเรามีรายได้จริงๆ วันนั้นเขาอาจจะกลับมาสนใจและร่วมทีมงานกับเราก็ได้ครับ

ทำไม TOPUP2RICH ไม่มี ระบบ AUTO RUN

            มีคนถามผมว่าทำไม Topup2rich ไม่มี ระบบ auto run ผมขอจะพูดถึง auto run กับ การวางสายงานเอง ว่าทำไม auto run ถึงมีคนจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จ 
                การต่อสายงานนั้น เป็นหนึ่งปัจจัย และอีกหนึ่งหัวใจความสำคัญที่จะเกิดขึ้นในการพัฒนาและสร้างฐานทีมงานที่แข็งแกร่งมั่นคง ในการตลาดแบบเครือข่ายนั้น ทุกที่ผู้นำจะเป็นผู้กำหนดการวางโครงสร้างให้แก่ทีมงาน ถ้าเป็นแผนbinary 2 สายงาน ก็มักจะบอกว่า "ต่อให้ สาย" อีกสายทำเอง ก็จะเกิดคำถามว่า "แล้วถ้าทำไม่ได้ล่ะ ไม่ได้อะไรเลยเหรอ??" และนานาปัญหาตามมา จะมีผู้นำก็ส่วนน้อยที่จะทำได้เพราะว่าเข้าใจแนวคิดของการวางสายงานแบบ สาย ดีกว่าคนอื่น แต่ท้ายสุดการวางโครงสร้างแบบสะเปะสะปะ ก็จะทำให้สายงานเติบโตเพียงชั่วคราว และในอนาคตก็จะเลิกรากันไปหมด เพราะสมาชิกมีรายได้ไม่ทั่วถึงมากพอ....
แล้วอย่างงี้ต้องต่อเต็มสายงานให้เค้าหรือว่า AUTO RUN เต็มชั้นเลยรึเปล่า?
                เป็นคำถามที่สามารถตอบได้ทันทีว่า "ไม่จำเป็น" เพราะการต่อเต็มสายงานจะทำให้สมาชิกนั้นรู้สึกเกียจคร้าน และไม่อยากทำธุรกิจเพราะมักจะมีเหตุผลว่า "หาคนมาต่อให้ดูก่อนแล้วถึงจะทำพอเอาเข้าจริง ก็ไม่ทำและนั่งรับรายได้ แล้วชั้นล่างๆ ยิ่งลำบากในการ "รอคอย" กว่าคนที่มาต่อจะมาถึงคิวตน ก็รอนานเกินไป
                สำหรับการต่อสายงานแบบ AUTORUN นั้น ถ้าเราดูกันตาม "สถิติความเป็นจริง" แล้ว ยังไม่มีธุรกิจใดที่เปิดแล้วให้วางสายงานแบบ AUTO Run หรือว่า ต่ออัตโนมัติโดยไม่ต้องแนะนำใคร แล้วอยู่รอดเลย แต่นักธุรกิจหลายคนก็รู้ว่า "โอกาสแรกๆคุ้มค่า" เพราะว่าการต่อสายงานแรกๆ ของระบบ AUTO RUN นั้นจะเป็นไปด้วยความเร็ว เพราะว่า หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วให้รอคนมาต่อ ซึ่งถ้า 100 คน คิดแบบนี้ ก็จะได้คนไม่ทำงาน 100 คน มารวมกัน ในขณะที่คนทำงานมีเพียง 10-20 คน แล้วกว่าจะเต็มชั้นได้ก็ย้ำแย่
                เห็นได้ว่าการต่อ AUTO RUN นั้น ยิ่งชั้นล่างๆ หรือมีลำดับเลข 100+ จะยิ่งหาคนมาต่อยากมาก เพราะข้างบนก็ไม่ทำงานรอคนมาต่อ ในขณะที่ข้างล่าง ก็มาเพราะอยากให้คนมาต่อเหมือนกัน ทำให้ระบบ AUTO RUN ไม่ประสบความสำเร็จ
                อีกประการหนึ่ง การต่อสายงานแบบ Autorun มันจะไม่มีสายสัมพันธ์เกิดขึ้น คือ เราจะไม่รู้จักคนๆ นั้นเขาเป็นใคร หัวใจหลักของธุรกิจเครือข่ายคือ สายสัมพันธ์ที่ดี เราต้องรู้จักกัน มีอะไรก็คอยช่วยเหลือแบ่งปันข้อมูล เราลองคิดดูนะครับ ถ้าวันนี้เราไม่มีสายสัมพันธ์กันในองค์กรเลย สิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็จะหลุดจากเราได้ง่ายๆ เพราะว่าเราไม่รู้จักกัน ไม่มี "กาวใจ" ยึดเหนี่ยวกันไว้ซึ่งกันและกัน วันนี้เรามาสร้างธุรกิจที่จะสามารถสร้างรายได้แบบไม่ต้องทำงาน หรือPassive ได้ ไม่ใช่งานที่ได้รายได้เสริม ดังนั้น ธุรกิจต้องมีความละเอียดให้มากในการวางสายงานครับ

ธุรกิจนี้ระดมทุนหรือไม่?

               
                การระดมทุนนั้นหมายถึง เมื่อคุณเอาเงินมาลงทุนแล้วบริษัทสัญญาว่าจะจ่ายเงินตอบแทนให้คุณในอัตราที่ สูงกว่าดอกเบี้ย ธนาคาร โดยไม่รู้ว่าเอาเงินที่ระดมทุนไปทำอะไร แต่สำหรับของเรานั้นเรามีรายได้ ส่วน ส่วนแรกมาจากการขยายเครือข่ายคือรายได้ข้อ และข้อ กับส่วนที่สอง มาจากการเติมเงินของสมาชิกในเครือข่ายที่เราสร้างขึ้น ซึ่งมีแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจน คือมาจากส่วนลดที่ทางโอเปอเรเตอร์จ่ายคืนกลับมา 3.5% และบริษัทนำมาจ่ายในแผน2.1% ซึ่งไม่เกิดการ overpayและการสมัครแบบ 3 ID เผนการตลาดก็ระบุคุณสมบัติชัดเจนว่าคำนวณจากคะแนน 10500 RV นั่นหมายถึงถ้ามีคะแนนก็คำนวณ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องคำนวณ อย่างนี้ไม่ใช่การระดมทุนครับ
                แต่ถ้าปกติคุณเติมเงินเดือนละ 300 บาทแล้วคิดว่าคุณอาจจะเสียประโยชน์ ก็เลือกสมัครแบบ รหัสก็ได้ วึ่งทำให้รหัสที่ ของคุณทำคุณสมบัติที่จะรับรายได้ข้อ เสร็จแล้ว คุณแค่ใช้รหัสที่ และ แนะนำต่อไปให้ครบเท่านี้คุณก็มีสิทธิ์รับรายได้ข้อ ทั้ง 3รหัส ส่วนจะมาเท่าไหร่ก็ขึ้นกับคะแนนในแต่ละรอบครับซึ่งโดยปกติ เมื่อเวลาผ่านไประยะนึง คะแนนจะล้นครับ
            การสมัครในธุรกิจนี้ ให้สมัครตามการใช้งานจริง ถ้าคุณเติมเงินเดือนละ 100-200 บาทก็สมัครแบบ1รหัสครับ และก็แนะนำ คนเท่านี้ก็มีสิทธิ์รับรายได้ตามแผนแล้วครับ ไม่ต้องมาเสียเงินรักษายอดรายเดือน หรือค่าธรรมเนียมรายเดือนอีก


แล้วเราจะมีวิธีการพูดแบบง่ายๆ เพื่อชวนเขาเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้อย่างไร?

                
            สวัสดีครับ  ไม่ทราบว่าพี่.....ตอนนี้พี่ใช้โทรศัพท์แบบเติมเงิน หรือแบบรายเดือนครับ  อ๋อ...เป็นแบบรายเดือนนะครับ  พี่รู้มั้ยครับว่าตอนนี้ไม่ว่าพี่จะเติมเงินมือถือค่ายอะไรก็ตาม  ปกติแล้วพี่ก็ต้องไปเติมเงินผ่านเซเว่นหรือตู้เติมเงิน Online  ใช่มั้ยครับ  แล้วพี่รู้มั้ยครับทุกครั้งที่พี่เติมเงินทุก 100 บ. เซเว่นก็จะได้จากพี่ไป 3.5 บ. ปีนึงก็มีมูลค่าหลายพันล้านบาทเลยนะครับ   แต่วันนี้พี่สามารถมีรายได้จากการเติมเงินด้วยตัวของพี่เองโดยไม่ผ่านเซเว่น  แล้วเราสามารถที่จะเอาส่วนแบ่งพันกว่าล้านบาทมาเป็นรายได้ให้กับเราได้ด้วย
                ซึ่งวันนี้ผมก็มีข้อมูลใน Youtube ให้พี่ดูด้วยครับ   เดี๋ยวผมจะส่ง Link ไปให้นะครับ  ไม่ทราบว่าFacebook ของพี่คืออะไรครับ   พี่ลองดูข้อมูลนะครับ  ผมฟังครั้งแรกผมก็ตื่นเต้นมาก  และส่วนการตลาดตรงนี้ยังมีคนทราบยังไม่เยอะมาก  เราเป็นกลุ่มแรกๆ ที่สามารถทำการตลาดจากส่วนแบ่งการตลาดนี้ได้    ยังไงผมก็อยากให้พี่ได้ตั้งใจฟังข้อมูลตรงนี้  มันจะทำให้พี่มีรายได้เพิ่มจากงานประจำของพี่ได้อย่างแน่นอนครับ         เดี๋ยวพี่ดูข้อมูลตรงนี้ก่อน  ชอบไม่ชอบไม่เป็นไรครับ  ยังไงเดี๋ยวเราคุยกันอีกที...สวัสดีครับ


4 เหตุผลที่คนล้มเหลวกับการทำธุรกิจออนไลน์


1.Money Game
                ด้วยความที่พอกลายมาเป็นธุรกิจออนไลน์นั้นทำให้คู่แข่งทางการตลาดเยอะมากขึ้นหลายๆ บริษัทก็ปรับตัวโดยใช้แผนการตลาดมา ล่อตา ล่อใจ ทั้งโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม และที่น่ากลัวกว่านั้นคือแผนการตลาดแบบ Money Game ที่อุปโลกตัวสินค้าขึ้นมาและใช้เทคนิคการระดมทุน ผู้ที่มาติดกับดักนี้ก็เพราะจำนวนเงินที่เยอะจ่ายผลตอบแทนสูงคืนทุนไวแต่!!! ไม่มั่นคง เพราะหลายๆบริษัทนั้นไม่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายนึกจะเลิกก็เลิก นึกจะเปิดก็เปิด จึงทำให้หลายๆคนที่ติดกับดักในส่วนของตรงนี้ต้องผิดหวังกันไปตามๆกัน

2.เห็นคนอื่นทำแล้วอยากทำมั่ง
ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ  คนกำลังอยู่ในข้อที่ นี้เนื่องจากตัวผมเองก็เคยเป็นและเกือบเคยติดกับดักทางการตลาดเหล่านี้มา แล้ว หลายๆบริษัทมีสมาชิกออกมมาโชว์แผนรายได้ ก็มีทั้งเอาของคนอื่นมา ทั้งของตัวเองบาง จริงบ้างไม่จริงบ้าง พอเราเห็นว่าคนอื่นทำได้เยอะก็อยากทำบ้าง อยากได้บ้าง....ปล่อยให้ความโลภครอบงำ ผมจะบอกไว้ ณ ที่นี้เลยว่า งานอะไรก็แล้วแต่ทั้งได้เงินจริงและไม่ได้เงินจริง เราเห็นคนอื่นทำได้แต่ใช่ว่าตัวเราจะทำได้นะครับอย่าไปตามกระแส หลายๆคนพอลงเงินไปแล้วหาคนไม่ได้ สุดท้ายก็จมทุนแถมยังต้องเสียเงินรักษายอดอีก ก็ต้องเลิกจากธุรกิจออนไลน์ไปในที่สุด ให้ศึกษาและวิเคราะห์ให้ดีก่อนตัดสินใจ ว่าความสามารถเราถึงเขารึยังรึแผนการตลาดมันง่ายพอที่จะให้ทุกคนประสบความ สำเร็จแล้ว หรือ ยัง...

 3.ทำงานพื้นฐานไม่เป็น 
                หลายคนนะครับการสปอนเซอร์ลูกค้าหรืองานพื้นฐานของธุรกิจหลายๆ  คนทำไม่เป็นครับและไม่ชอบทำ เขาให้โพสเว็บก็โพสแหลก โพสกระจายจนเป็น สแปมเว็บ พอมีผู้สนใจโทรมาสอบถามตอบไม่ได้เพราะไม่ได้ทำการบ้านมายังไงล่ะครับ ตอบไม่ถูกว่าบริษัทเราดียังไง สินค้าเป็นแบบไหน เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ถ้าสุภาษิตบ้านผม เขาเรียกว่าตายน้ำตื้นครับเพราะคนเหล่านี้ไม่ขวนขวายที่จะเรียนรู้และศึกษา อัพไลน์บอกลงเงินแล้วจะประสบความสำเร็จเท่านั้น เท่านี้ก็แห่กันไปลง สุดท้ายเจ๋งครับกลับมานั่งท้อแท้สิ้นหวัง และสุดท้ายก็ไม่พ้นโทษธุรกิจกับแต่ไม่เคยโทดตัวเองเลย...

4.หวังพึ่งแต่อัพไลน์ 
                ผมเชื่อว่าหลายคนคิดรวยแต่อยากสบายครับ ซึ่งในโลกนี้ไม่มีงานไหน สบายไปก่อนและสบายทีหลังหรอกครับถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆคนคงประสบความสำเร็จกัน แบบสบายๆทั้งประเทศล่ะครับ ลองสังเกตุคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนนะครับ เขาลำบากไปก่อนสบายทั้งนั้นและลำบากมากๆด้วย บางคนรอแต่จะให้อัพไลน์หาคนให้...โยนคนลงมาให้... พอลงทุนไปแล้วไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้เงินถูกไหม?...ครับแล้วก็มาโทษว่าธุรกิจ ไม่ดีโดนอัพไลน์ หลอก แต่!!! ไม่เคยโทษความขี้เกียจของเราเลย...ทุกวันนี้ตัวผมถามตัวเองอยู่เสมอว่าเรา ลำบากพอที่จะประสบความสำเร็จหรือยัง เหมือนเราขุดดินแหละครับ อีกไม่กี่ชั้นดินก็ถึงที่อยู่ของแร่เงิน แร่ทองล่ะ แต่หลายๆคนท้อและเลิกไปก่อนเพราะไม่มีความอดทนครับ อะไรมากระทบนิดกระทบหน่อย คนนั้นบอกมันไม่ดีนะ ก็เชื่อเขาไปซะหมด แล้วก็รอว่าเมื่อไหร่อัพไลน์จะโยนคนลงมาให้ใช่ไหมครับ? คนที่กำลังทำตัวแบบ นี้อยู่ให้ถามตัวเองซะใหม่นะครับว่า นี่มันธุรกิจของใคร ของคุณ หรือของ อัพไลน์ ครับ...

*บทความดีๆของอัพไลน์คะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น